ทัวร์ซาอุดิอาระเบีย 9 วัน 6 คืน

ทัวร์ซาอุดิอาระเบีย 9 วัน 6 คืน

ข้อมูลเพิ่มเติม

วันเดินทาง

วันที่เดินทาง

ผู้ใหญ่ (พักคู่)

ผู้ใหญ่ (พักเดี่ยว)

ผู้ใหญ่ (พักเดี่ยว)

ราคาอื่นๆ

รับได้

Group Size

10 – 18 ตุลาคม 2567

219,900

276,900

57,000

-

17 17

05 – 13 ธันวาคม 2567

229,900

286,900

57,000

-

17

17

26 ธันวาคม 2567 – 03 มกราคม 2568

239,900

296,900

57,000

-

17

17

แผนการท่องเที่ยว

วันที่

สถานที่ท่องเที่ยว

โรงแรม (ที่พัก)
ระดับ 4 ดาว
หรือเทียบเท่า

อาหาร

เช้า

กลางวัน

เย็น

1

กรุงเทพมหานคร – กรุงโดฮา

สายการบิน

 

สายการบิน

 

2

กรุงโดฮา – เมืองอัลอุลา – อาคารกระจกใหญ่ที่สุดในโลก – ย่านเมืองเก่า

Habitas AlUla

ที่พักสไตล์แคมป์สุดหรู

สายการบิน

 ✓

3

เมืองอัลอุลา – เฮกร้า – ดาดาน – หินรูปช้าง

Habitas AlUla

ที่พักสไตล์แคมป์สุดหรู

โรงแรม

 ✓

 ✓

4

เมืองอัลอุลา – เมืองมาดีนะห์

Intercontinental Madinah Hotel 5 ดาว

หรือ เทียบเท่า

โรงแรม

✓ 

5

เมืองมาดีนะห์- Haramain High Speed Train – กรุงเจดดาห์

Radisson Blu Hotel, Jeddah

Corniche 4 ดาว หรือ เทียบเท่า 

โรงแรม

✓ 

 ✓

6

เมืองเจดดาห์– กรุงริยาด – Boulevard World

  NOVO Hotel 4 ดาว

หรือ เทียบเท่า

โรงแรม

สายการบิน

7

พิพิธภัณฑ์สถำนแห่งชาติ- Edge of the World

ดินแดนสุดขอบโลก

NOVO Hotel 4 ดาว

หรือ เทียบเท่า

โรงแรม

 

8

พระราชวัง มูร์รับบา – หมู่บ้านมรดกโลกดิรอียะฮ์ – กรุงเทพมหานคร

สายการบิน

โรงแรม

 

9

กรุงโดฮา – กรุงเทพมหานคร

เดินทางถึงสนามบินสุววรณภมิ

 

สายการบิน

 

 

อัตราค่าบริการ ต่อท่าน เป็นสกุลเงินไทยบาท (สำหรับ 10 ท่านขึ้นไป)

วันเดินทาง

ราคาผู้ใหญ่ ต่อท่าน (พักคู่)

ราคาผู้ใหญ่ ห้องพักเดี่ยวเพิ่ม

10 – 18 ตุลาคม 2567

219,900.-

 

05 – 13 ธันวาคม 2567

229,900.-

57,000.-

26 ธันวาคม 2567 – 03 มกราคม 2568

239,900.-

 

กำหนดการเดินทาง

23.00            คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรรภูมิชั้น 4 แถว Q สายการบิน Qatar Airways (QR)

02.30            เดินทางสู่ กรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR 837 (ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง)

05.30            คณะเดินทางถึง กรุงโดฮา ประเทศการต้าร์(แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน)

07.30            เดินทางสู่ เมืองอัลอุลา ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR 1202

(ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที)

10.10            คณะเดินทางถึง เมืองอัลอุลา ประเทศซาอุดิอาระเบีย หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากรเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารภายในที่พัก TAMA Restaurant by Habitas

เป็นร้านอาหารที่หรูหรา ไฮโซ อาหารจะเป็นอินเตอร์ผสมผสานกับสไตล์ท้องถิ่น ด้านหน้าห้องอาหารจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยวิวภูเขา จุดที่นักท่องเที่ยวและบรรดาเหล่านางแบบ เซเลปคนดังทั่วโลกต่างต้องมาถ่ายภาพ ณ บริเวณห้องอาหารคู่กับสระน้ำ ถ้ามาเยือนเมืองอัลอุลาแล้ว ไม่ได้มาถ่ายภาพเก็บความทรงจำกับวิวหลักล้าน ณบริเวณสระน้ำนี้แล้วนั้น ถือว่าท่านมาไม่ถึงเมืองอัลอุลา นำท่านเข้าเช็ค-อิน ณ โรงแรมที่พัก

บ่าย               อิสระให้ท่านได้พักผ่อนเปลี่ยนอิริยาบถภายในห้องพัก ที่มาพร้อมกับวิวสุดอลังการของเทือกเขาหินทราย ร่องโตรกภูผา ที่ธรรมชาติได้สรรสร้างได้อย่างลงตัว จนบางครั้งทำให้มีความรู้สึกว่า ณ เวลานี้ตัวของเรานั้นอยู่บนดาวอังคาร หรืออยู่บนโลกใบนี้กันแน่ เมืองอัลอุลานั้นได้ถูกจัดให้เป็นเมืองมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก UNESCO World Heritage Site แห่งแรกของประเทศซาอุดิอาระเบีย ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายลึกลับในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ที่มีความรุ่งเรืองที่ยาวนานกว่า 7,000 ปีมาแล้ว

16.30            นำท่านเดินทางสู่ Maraya Concert Hall ตึกกระจก ที่ Guinness book ให้การรับรองว่าเป็น อาคารกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ใช้เวลาสร้างเพียงแค่ 2 เดือนครึ่ง ก็แล้วเสร็จ ใช้คนงาน 1,000 คน ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน เป็นหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองอัลอุลาที่สำคัญ เรียกว่าใครมาเมืองอัลอุลาแล้ว จะพลาดไม่ได้เลย ลองจินตนาการดูว่า หากตัวท่านได้ไปยืนโพสต์ท่าสวยๆ เท่ห์ๆ อยู่ตรงหน้าอาคารกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่ตัวอาคารนั้นจะเต็มไปด้วยภาพสะท้อนวิวทิวทัศน์ของภูเขาโตรกหินรูปทรงต่าง ๆ

ท่ามกลางทะเลทรายอาราเบียน รับรองได้เลยว่าเป็นภาพงดงามสุดอลังการ และเป็นภาพที่ไม่เหมือนที่ใหนบนโลกใบนี้อย่างแน่อน

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารไทย สุดหรู ไฮโซ Saffron Banyan Tree AlUla

อิ่มอร่อยกับรสชาดอาหารไทยแท้ 100% กับเชฟ คนไทย บอกเลยว่าสุดจริงๆ สำหรับอาหารไทยในเมืองอัลอุลา

หลังอาหารค่ำพาท่านเดินเล่น ย่านเมืองเก่าอัลอุลา กับความรู้สึกของการย้อนยุคในโลกอาหรับโบราณ ชมบรรยากาศเมืองเก่าที่มีบ้านเรือน ตลาดร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ที่ได้รับการบูรณะปรับปรุงซ่อมแซมมาจากดิน เป็นเมืองโบราณผ่านอดีตกาลที่ยาวนานที่บ้านเรือนและตัวอาคารต่าง ๆ ที่ถูกสรรสร้างขึ้นมาจากดินโคลนจริง ๆ มีกำแพงเมืองล้อมรอบ มันช่างเป็นความรู้สึกที่มีความพิเศษกับห้วงเวลา ณ ตอนนี้ ที่เรานำตัวของเรามาอยู่ใน ณ ห้วงเวลาที่ช่างวิเศษจริง ๆ ให้ท่านได้มีเวลาเดินเล่น เลือกซื้อของฝากของที่ระลึก หรือจะเลือกซื้อชุด เครื่องแต่งกายสไตล์อาหรับ ไว้สำหรับถ่ายภาพตามสถานท่องเที่ยวในวันต่อ ๆ ไป

พักค้างคืน ณ โรงแรม Habitas AlUla ที่พักสุดหรูที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก ที่พักสไตล์แคมป์ แต่เป็นแคมป์ระดับ 5 ดาว ภายนอกดีไซน์ดูราวคล้ายกับเต้นท์ทั่วไป แต่ภายในนั้นเป็นที่พักสุด หรูหรา ตามไสตล์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันถึงแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางทะเลทรายก็ตาม เป็นอีกหนึ่งที่พักในฝันของใครหลาย ๆ คน ต้องมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ห้องอาหารเช้าที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของเมืองอัลอุลา เมื่อมองผ่านบานประตูกระจกออกไปด้านหน้าก็จะพบกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย โอบล้อมไปด้วยขุนเขาที่มีรูปทรงต่าง ๆ ตรงกับคอนเซ็ปของที่พัก คือ OUR HABITAS Breakfast with a View

นำท่านเดินทางสู่ เฮกรา Hegra เป็นแหล่งโบราณคดีที่ตั้งอยู่ในอัลอุลา ซากปรักหักพังของโบราณสถานส่วนใหญ่นั้นมีอายุตั้งแต่สมัยราวคริสต์ศตวรรษที่ 1 และถือเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรนาบาเทียน เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากมหานครเพตรา ของจอร์แดน ในปี ค.ศ. 2008 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้สถานที่แห่งนี้เป็น มรดกโลกแห่งแรกของซาอุดิอาระเบีย 1st UNESCO World Heritage Site

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น

เป็นร้านอาหารท้องถิ่นที่มีการตกแต่งร้านที่หรูหรา มีระดับ พร้อมกับเมนูอาหารที่ขึ้นชื่อ และมีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับต้นๆ ของเมืองอัลอุลา

นำท่านเดินทางสู่ เมืองดาดาน Dadan เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประติมากรรมที่งดงาม มีอายุราวในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ให้ท่านได้ชมงานแกะสลักภูเขาหินทรายสีแดงขนาดใหญ่ที่ เรียกว่า สุสานสิงโต หรือ โดยที่มีบันไดจากพื้นราบขึ้นไปสู่ตัวสุสานด้านบน เป็นสุสานที่มีสีน้ำตาลแดงที่แกะสลักเป็นรูปสิงโต 2 ตัว อยู่ด้านบนหน้าปากทางเข้าของสุสาน คาดว่าเป็นสุสานของชนชั้นผู้ปกครองอาณาจักรในสมัยนั้น จากนั้นนำท่านนั่งรถต่อไปชม ภูเขาอิคมะห์Jabal Ikmah เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเลี๊ยะห์ยาน Lihyanite ระหว่างทางเดินจะเต็มไปด้วยศิลปะการจารึกลงบนแผ่นหิน มีภาพและข้อความจารึกในภาษาต่าง ๆ โดยที่ข้อความส่วนใหญ่บนแผ่นหินนั้นจะเขียนด้วยภาษาดาดานนิติค เป็นภาษาที่ใช้กันในอาณาจักรดาดาน และมีอีกหลายข้อความที่จารึกที่กำลังรอการพิสูจน์

จากนักโบราณคดีจากนั้นนำท่านสู่ หินรูปช้าง Elephant Rock หรือในภาษาอาหรับเรียกว่า Jabal AlFil เป็นหินที่มีรูปร่างเหมือนช้างขนาดใหญ่ ยืนเอางวงค้ำพื้นทะเลทรายอยู่ มีความสูง 52 เมตร และมีฉากหลังเป็นภูเขาหินทราย นักท่องเที่ยวหลาย ๆ ท่านที่ได้ไปเยือนในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ต่างมีความรู้สึกตรงกันว่า การได้รอชมพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าด้านหลังหินรูปช้างนั้น เป็นภาพที่งดงามติดตาตรึงใจไม่แพ้สถานที่ใดในโลกและเราก็จะรอชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าด้วยกัน

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารไทย สุดหรู ไฮโซ Saffron Banyan Tree AlUla

อิ่มอร่อยกับรสชาติอาหารไทยแท้ 100% กับเชฟ คนไทย บอกเลยว่าสุดจริงๆ สำหรับอาหารไทยในเมืองอัลอุลา

พักค้างคืน ณ โรงแรม Habitas AlUla ที่พักสุดหรูที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก ที่พักสไตล์แคมป์ แต่เป็นแคมป์ระดับ 5 ดาว ภายนอกดีไซน์ดูราวคล้ายกับเต้นท์ทั่วไป แต่ภายในนั้นเป็นที่พักสุด หรูหรา ตามไสตล์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันถึงแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางทะเลทรายก็ตาม เป็นอีกหนึ่งที่พักในฝันของใครหลาย ๆ คน ต้องมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารเช้าของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองมาดีนะห์Madinah (ระยะทาง 371 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30ชั่วโมง) ระหว่างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของเทือกเขาหินทราย ที่มีรูปร่างแปลกตาเรียงรายตามสองข้างทาง เป็นภาพที่หาดูได้ยาก

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น

เมืองมาดีนะห์เป็นเมืองที่สำคัญอันดับสองรองจากมักกะห์ เป็นที่ฝังศพของท่านศาสดามูฮัมหมัด นำท่าน ชมบริเวณภายนอกมัสยิดอันนะบาวีหรือ มัสยิดของท่านศาสดา Prophet’s Mosque เป็นมัสยิดที่มีความสำคัญรองมาจากมัสยิดฮารอมในเมืองมักกะห์บริเวณรอบมัสยิดจะมีร่มที่มีขนาดใหญ่ที่ทำการตั้งเวลาหุบและกางร่มอย่างตรงเวลา ร่มชนิดนี้จะใช้ผ้าใบสั่งทำพิเศษ และมีเพียงที่เดียวในโลก สร้างตามคำสั่งของกษัตริย์ อับดุลเลาะห์ บิน อับดุลอาซิซ มีร่มจำนวนทั้งหมด 250 คัน โดยใช้เงินลงทุนมหาศาลถึง 47,000 ล้านบาท (บริเวณที่มีร่มนั้นอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถ่ายภาพในบริเวณร่มได้)มัสยิดนาบาวีแห่งนี้จะเปิดตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ภายในมัสยิดจะมีบ้านของท่านศาสดามูฮัมหมัด และหลุมฝังศพของท่าน

หลังจากนั้นนำท่าน ชมภูเขาอุฮุด ภูเขาที่ชาวมุสลิมเชื่อกันว่ามาจากสวรรค์ เป็นสถานที่เกิดสงครามครั้งที่ 2 คือสงครามอุฮุดระหว่างชาวมุสลิมและชาวเมืองมักกะห์ ภูเขานี้มีสีแดง ทอดตัวยาว 7 กิโลเมตร ตั้งตระหง่านอยู่ทางตอนเหนือของเมือง ใกล้ๆกันมีภูเขาเล็กๆชื่อรูมะห์ ที่ซึ่งพลธนูของกองทัพมุสลิมประจำการ เมื่อครั้งสงครามอุฮุดอุบัติขึ้น

ต่อมานำท่านชม วาดีย์อัลญินหรือหุบเขาแม่เหล็ก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองภูเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่าลี้ลับ ทำให้รถสามารถวิ่งขึ้นเขาเองได้ โดยไม่ต้องสตาร์ทเครื่องยนต์ ล้อมรอบไปด้วยทรรศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ ชวนให้หลงใหล เราจะไปพิสูจน์ด้วยกัน

เย็น               รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

พักค้างคืน ณ โรงแรม Intercontinental Madinah Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

10.00            นำท่านนั่ง รถไฟความเร็วสูง Haramain High Speed Train เดินทางสู่ กรุงเจดดาห์

11.54            เดินทางถึง กรุงเจดดาห์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร

บ่าย              รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

นำท่านชมย่าน เมืองเก่าเจดดาห์ อัล บาลัด Al Balad เป็นศูนย์กลางของในอดีต มีบ้านไม้โบราณสวยงามเรียงรายตามถนนโดยตลอดสองข้างทาง เทศบาลเมืองเจดดาห์เริ่มพยายามอนุรักษ์เล็งเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และได้มีการก่อตั้งสมาคมอนุรักษ์ประวัติศาสตร์เจดดาห์ เพื่อรักษาสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ ในปี 2002 ได้มีการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 4 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับสังคมอนุรักษ์ในปี ค.ศ. 2009 อัล บาลัด ได้รับการเสนอชื่อจากสำนักงานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของซาอุดิอาระเบียให้เพิ่มในรายการมรดกโลกของ UNESCO และได้รับการยอมรับในปี ค.ศ. 2014

ให้ท่านได้พักผ่อนเดินชมตลาดอาหรับแบบดั้งเดิม ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวกับตลาดที่มีความเก่าแกที่สุดในเจดดาห์ ตลาดอัล อะลาวีSouk Al Alawi ในย่านบาลัด อันเก่าแก่ของ เมืองเก่า เจดดาห์ ระหว่างทางเดินในย่านเมืองเก่า นำท่านแวะเข้าชม บ้านนาซีฟ Naseef House บนถนนซุค อัลอะลาวี ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเมืองเจดดาห์ ภายในบ้านมีการเก็บรักษาอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ในสมัยโบราณ ได้อย่างดี ให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย

จากนั้นเดินต่อไปยัง ประตูมักกะห์Mecca Gate ตั้งอยู่ด้านนอกของเมืองเจดดาห์ บนถนนที่มุ่งหน้าสู่เมืองมักกะห์ เป็นประตูทรงโค้งบนถนน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1979 ในสมัยนั้นนักแสวงบุญที่เดินทางไปแสวงบุญที่เมืองมักกะห์ทุกคนจะต้องเดินทางผ่านประตูแห่งนี้ทั้งสิ้น ให้ท่านได้เก็บภาพคู่กับประตูมักกะห์ ได้ตามอัธยาศัย

เย็น               รับประทานอาหารเย็น ภัตตาคาร อาหารไทย

ส่งท้ายก่อนที่จะอำลา ประเทศซาอุดิอาระเบีย กับอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาด นำท่านสู่ ย่านเจดดาห์คูรนิช Jeddah Corniche หรือ เจดดาห์ วอเตอร์ ฟร้อนท์สถานที่พักผ่อนที่สำคัญของชาวเมืองเจดดาห์ ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของทะเลแดง มีถนนเลียบชายฝั่งมีความยาวประมาณ 30 กิโลเมตรมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำประติมากรรมขนาดใหญ่รูปทรงต่าง ๆ และที่สำคัญเป็นที่ มีน้ำพุที่มีความสูงที่สุดในโลก โดยพ่นน้ำได้สูงถึง 312 เมตร มีชื่อว่าน้ำพุกษัตริย์ ฟาฮัด King Fahad Fountain สามารถมองเห็อนได้โดดเด่นชัดเจน

พักค้างคืน ณ โรงแรม Radisson Blu Hotel, Jeddah Corniche 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน เจดดาห์

12.25            เดินทางสู่ กรุงริยาด โดยสายการบิน Fly Adeal เที่ยวบินที่ F3 116

(ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที)

14.00            คณะเดินทางถึง กรุงริยาด จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก

เย็น               นำท่านเดินทางสู่ Boulevard World หรือ Avenue of the World เป็นหนึ่งในพื้นที่ความบันเทิงที่ Turki Al-Sheikhประธานคณะกรรมการบริหารของ General Entertainment Authority ในราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียประกาศภายในพื้นที่ของฤดูกาลริยาด ปี 2022 รวบรวมประสบการณ์ต่าง ๆ จากหลายประเทศทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อิตาลี อินเดีย จีน สเปน ญี่ปุ่น เม็กซิโก กรีซ และ โมรอคโค นอกจากนี้ยังรวมถึงทะเลสาบเทียมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือดำน้ำได้เป็นครั้งแรกในเมืองริยาด (ค่านั่งเรือดำน้ำไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์) มีจัดแสดงลาสเวกัสจำลอง โรงละครเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการจัดแสดง หมู่บ้านคอมแบท หมู่บ้านซุปเปอร์ฮีโร่ และกระเช้าลอยฟ้าที่จะข้ามระหว่าง Boulevard World และ Boulevard Riyadh City โดยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 3,000 คน ต่อชั่วโมง ต่อมาในปี 2023 ได้มีการเพิ่มภูมิภาคใหม่ ได้แก่ สหราชอาณาจักร อียิปต์ ไทย และมีมีร้านค้าช้อปปิ้ง จำนวน 1,180 แห่ง มีร้านอาหารและคาเฟต์ 120 แห่ง

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง

พักค้างคืน ณ โรงแรม NOVO Hotel ระดับ 4 ดาว โรงแรมเปิดใหม่ ย่านใจกลางเมือง

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติNational Museum ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 เป็นส่วนหนึ่งของการเก็บรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของกษัตริย์อับดุลอาซิซ โดยมีการจัดเก็บโบราณวัตถุชั้นนำบางส่วน และจัดแสดงสิ่งของจากทั่วทุกมุมโลก ไปร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์และสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ เครืองมือเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตในอดีตของชนพื้นเมืองต้นกำเนิดชนชาติซาอุดิอาระเบีย

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

นำท่านเดินเปลี่ยนเป็นรถ 4WD เดินทางสู่ ยอดเขา ฟีรานย์ Jebel Fihrayn หรือที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะรู้จักกันในชื่อ “ดินแดนสุดขอบโลก” The Edge of the World เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดของซาอุดิอาระเบียสมกับเป็นดินแดนสุดขอบโลกจริง ๆ เป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพอย่างแท้จริง เมื่อท่านได้มานั่งหรือยืนอยู่ตรงจุดหน้าผาที่สูงและชันที่สุด ท่านจะได้เห็นวิวแบบพาโนรามา 360 องศา ดูคล้ายกับว่าไม่สามารถที่จะเดินไปใหนได้อีกแล้ว มันสิ้นสุดและหยุดตรงจุดเส้นสุดขอบฟ้าไม่ว่าท่านจะหันไปทางทิศใดก็ตาม พร้อมกับเก็บภาพพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ที่มีสีส้ม สีทอง เป็นปรากฏการทางธรรมชาติงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจได้ตามอัธยาศัย

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารไทย

พักค้างคืน ณ โรงแรม NOVO Hotel ระดับ 4 ดาว โรงแรมเปิดใหม่ ย่านใจกลางเมือง

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม พระราชวังมูร์รับบา Murabba Palace ในอดีตเคยเป็นพระราชวังของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย ก่อสร้างในสไตล์ของนัจจาดีน Najdean ภายในพระราชวังมีการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ และรูปถ่ายของกษัตริย์ มีโรลส์-รอยช์ของกษัตริย์ที่จัดแสดงในปี 1946 เป็นของขวัญจากนายกรัฐมนตรี วินสตัน เซอร์ชิลล์ของอังกฤษ

จากนั้นชม ป้อมปราการ อัลมัสมัค Al Masmak Fort ภายนอกเป็นอิฐโคลนและดินเหนียว เป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ ในเวลาต่อมาถูกใช้เป็นคลังเก็บอาวุธและกระสุน ต่อมาบริเวณแถบนี้ได้ถูกพิชิต โดย กษัตริย์ อับดุล อาซิซ อัล ซาอุด และได้ถูกรวบรวมเป็นอาณาจักรและแคว้นต่างๆ ไว้เป็นประเทศซาอุดิอาระเบียจนทุกวันนี้

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านมรดกโลกดิรอียะฮ์Al Diriyah ในอดีตนั้นเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของ ประเทศซาอุดิอาระเบีย และเป็นบ้านของครอบครัว Al Saud ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น มรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้UNESCO World Heritage Site ในปี ค.ศ. 2010 ท่านจะได้สัมผัสกับงานออกแบบของยุคสมัยใหม่ผสมผสานกับยุคเก่า ได้อย่างลงตัวที่สุด โดยเริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าจะเต็มไปด้วย ร้านอาหารระดับดาวมิชลิน Michelin Star หลายสิบร้าน (แต่ละร้านจะต้องทำการสำรองที่นั่งก่อนเท่านั้น) แม้กระทั่งโรนัลโด นักฟุตบอลซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส ยังต้องมีร้านอาหารเป็นของตนเองเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ภายในหมู่บ้านมรดกโลกดิรอียะฮ์แห่งนี้นั้น ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ซาอุดิอาระเบีย National Museum of Saudi Arabia ให้ท่านได้รับรู้ประวัติศาสตร์ของซาอุดิอาระเบีย ที่จัดแสดงได้อย่างลงตัวและทันสมัยเป็นอันมาก ต่อจากนั้นนำท่านเดินข้ามที่ราบลุ่ม Wadi Hanifah ไปยังเขต Al Turaif ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย ที่มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี

เย็น               รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร อาหารไทย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน กรุงริยาด เตรียมตัวเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร

21.45            เดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR 1173

(ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)

23.15            คณะเดินทางถึง กรุงโดฮา ประเทศการต้าร์(แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน)

01.50            เดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR 834 (ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 6 ชั่วโมง 55 นาที)

12.45            คณะเดินทางถึง สนามบิน สุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ ด้วยความปลอดภัย พร้อมความประทับใจ

หลักฐานการทำวีซ่าซาอุดิอาราเบีย

  1. สำเนาหนังสือเดินทาง (passport) ที่เหลืออายุเกินกว่า 6 เดือน
  2. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว
  3. สำเนาบัตรประชาชน
  4. เบอร์โทรศัพท์และอีเมลล์

ข้อควรทราบ

  1. สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็น ผู้ใหญ่ 3 ท่าน บริษัทฯ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวเปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องแทนจะสะดวกกับนักท่องเที่ยวมากกว่า
  2. กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอคืนเงินได้และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  3. กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด สำหรับชั้นท่องเที่ยว ท่านละ 2ใบ (นน.ใบละไม่เกิน 23 กก.) กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง HAND CARRY (น้ำหนักไม่เกิน 7 กก.)

การชำระเงิน

  1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 60,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น ชำระยอดส่วนที่เหลือก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน หากไม่ชำระค่าใช้จ่ายภายในกำหนด ทางบริษัทจะถือว่ายกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
  2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า ภายใน 3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดย อัตโนมัติ
  3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
  4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออก บัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ เกิดขึ้น
  5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและ ยื่นรายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทาง เจ้าหน้าที่
  6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่ สะดวกใน การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแล สมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแล กรวด คณะทัวร์ทั้งหมด

เงื่อนไขการเดินทางเข้าออกจากประเทศไทย

มีสัญชาติไทย

– เอกสารที่ต้องทำการเตรียมก่อนเดินทาง

  1. พาสปอร์ตตัวจริง (อายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน)
  2. เตรียมเอกสาร Vaccinated Certificate (ข้อมูลตรงตามพาสปอร์ต) หรือ เอกสาร International Vaccinated Certificate (สามารถลงทะเบียนขอออนไลน์ ได้ในแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือวัคซีนพาสปอร์ต “เล่มสีเหลือง” ที่ ออกโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับวัคซีน

เอกสารที่ต้องใช้ก่อนเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

– ต้องได้รับวัคซีนที่ได้รับอนุมัติแล้วหนึ่ง 1 เข็ม และระยะเวลานับตั้งแต่วันที่ได้ฉีดวัคซีนจนถึงวันที่เดินทางต้องไม่ต่ำกว่า หนึ่งเดือน หรือต้องได้รับวัคซีนที่ได้รับอนุมัติครบ 2 เข็ม ก่อนเดินทางเข้าดูไบ

– หากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ผู้โดยสารจะต้องแสดงใบรับรองผลการตรวจ COVID-19 แบบ PCR ที่เป็นลบซึ่งออกให้ ภายใน 48 ชั่วโมง นับจากเวลาที่ทำการเก็บตัวอย่างจนถึงเวลาที่ขึ้นเครื่องบิน ใบรับรองการตรวจ COVID-19 แบบ PCR จะต้องออกโดยผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ได้รับอนุมัติ

* หมายเหตุ : แนบใบรับรองการรับวัคซีนไว้กับตัวเผื่อเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ หรือ CERTIFICATE OF COVID-19 VACCINATION จากแอปหมอพร้อม

– ยกเลิกการตรวจ RT – PCR ก่อนเข้าเมืองอาบูดาบีแล้ว ตั้งแต่ 15 พฤษจิกายน 2022.

อัตราค่าบริการนี้รวม

– ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ (กระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโลกรัม และกระเป๋าสัมภาระโหลดได้ไม่เกิน 25 กิโลกรัม  ต่อท่าน)

– ค่าที่พักตลอดการเดินทาง , ค้าอาหารบางมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับส่งระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ตามที่ระบุในรายการ

– หัวหน้าทัวร์ (ไกด์ไทย) ผู้มีประสบการณ์คอยดูแลอํานวยความสะดวกตลอดการเดินทาง (ไม่รวมค่าทิป)

– ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีสนามบิน, ภาษีนํามัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ

– ภาษีหัก ณ ทีจ่าย 3% กรณีต้องการใบเสร็จ

 – ค่าวีซ่าทีมีค่าธรรมเนียม และค่าทาหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)

– ค่าตรวจ RT-PCR หรือค่าใช้จ่ายในการกักตัว ตามนโยบายของรัฐบาลแต่ละประเทศ

– ค่าอาหารในบางมื้อที่ไม่ได้ระบุไว้ในโปรแกรมการเดินทาง

 – ค่าพนักงานยกกระเป๋าทีโรงแรม ท่านผู้เดินทางทุกท่านจะต้องดูแลทรัพย์สินของท่านด้วยตนเอง ตามธรรมเนียมการเข้าพักในโรงแรมทุกแห่ง หากท่านให้พนักงานยกกระเป๋าไปส่งที่ห้องพัก พนักงานยก กระเป๋าจะได้รับทิปตอบแทนเมื่อให้บริการ ขั้นตํา 2 USD หรือเทียบเท่า ต่อกระเป๋า 1 ใบ (แนะนําให้ทุกท่านรับผิดชอบกระเป๋าของตนเองเพื่อความสะดวกปลอดภัย)

– ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าอาหารหรือเครื่องดื่มพิเศษที่สั่งมาในห้องพัก ค่าโทรศัพท์ ค่าบริการซักรีด, ค่ามินิบาร์, ค่าเครืองดื่มเพิ่มเติมนอกเหนือรายการ, ค่าพนักงานยกกระเป๋า, ค่ากิจกรรมต่าง ๆ  ที่นอกเหนือจากโปรแกรมระบุ ฯลฯ

บริษัทขอสงานสิทธิ์ในการไม่จองโปรแกรมการเดินทาง

ด้วยเหตุผลท่าสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในโปรแกรมการเดินทาง ไม่เอื้ออำนวยต่อบุคคลดังต่อไปนี้

 – เด็กที่มีอายุในระหว่างแรกเกิดถึง 4 ขวบ

– ผู้สูงอายุที่มีความจำเป็นต้องใช้วีลแชร์, ไม้เท้า หรือเครื่องมือต่าง ๆ ในการพยุงตัว

– ผู้เดินทางที่บ่งบอกการเป็นบุคคลไร้ความสามารถ

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน

– ค่านําหนักของกระเปาในกรณีทีเกินกว่าสายการบินกําหนดให้

 – สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม และมีสัดส่วน ไม่ เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เชนติเมตร” (Centimeter)

 – กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบ เล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด

– วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจ อย่าง ละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้นในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml.แล้วใส่รวม เป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่าง ประเทศ (ICAO)

– หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้น เครื่อง ได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ

– สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 25 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสาร ชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่ม เป็นสิทธิ์ ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด

– ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนด ให้ต่ำกว่า มาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่สายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระความรับผิดชอบ ค่าใช้จ่าย ในน้ำหนักส่วนเกิน  

– ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการ บินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎของสายการบินนั้น ๆ หรือสูงสุดตามกฎข้อบังคับของ ไออาต้า เท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยสูงสุดไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้น ธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำ ให้โหลดของมีค่าทุก ประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่ กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการ เดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย ทุกท่านต้องดูแล ระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

– กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดัง นั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

หมายเหตุ

  1. ราคาค่าอาหาร (บางร้าน) และค่าเข้าสถานที่ (บางสถานที่) ลูกค้าชำระด้วยตนเอง​
  2. สามารถปรับเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวหน้างานได้
  3. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินมัดจำทุกกรณี
  4. หากมีการเปลี่ยนแปลงทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  5. กรุณาตรวจสอบแผนการเดินทางและใบเสนอราคาให้ถูกต้องครบถ้วนและยืนยันกับทางบริษัททุกครั้ง